เทคนิค สมองดี มีความสุข

คุณเป็นคนนึงรึเปล่า ที่อยากฉลาด แข็งแรง สดชื่น มีสมองที่พร้อมสำหรับการเรียนรู้และพัฒนาตนเองไปได้นานที่สุดเท่าที่คุณต้องการ เคล็ดลับสุดยอดการดูแลสมองที่ทำให้สมองคุณมีความสุข ซึ่งเป็นงานวิจัยจากการแสกนสมองมีการทดลองยาวนานถึง 12 ปีขอนำเสนอเทคนิค สมองดี มีความสุข ทำง่ายๆ เพียงวันละ 5 นาที  รับรองชีวิตมีความสุขขึ้นแน่นอน

มีนักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งชื่อว่า ศาสตราจารย์ริชาร์ด เดวิดสัน (Richard Davidson Ph.D) นักวิทยาศาสตร์ที่ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของการเจริญสติหรือ Mindfullness ศาสตราจารย์ริชาร์ด ทดลองสแกนสมอง ใช้เวลาทดลองยาวนาน 12 ปี เป็นจึงได้เห็นชัดว่า การนั่งสมาธิมีผลต่อสมอง  อย่างน้อย 3 ส่วน สำคัญๆ

ส่วนที่ 1 สมองของเราคนปกติถ้าเราคิดถึงเรื่องดีใจ คิดถึงเรื่องที่ทำให้เรามีความสุข คิดถึงเรื่องที่ทำให้เราตื่นเต้น สมองส่วนหน้าด้านซ้าย หรือภาษาอังกฤษ  ที่เรียกว่า left prefrontal cortex จะมีการทำงานที่มากขึ้น แต่ถ้าวันไหนที่เรามีความเศร้า มีความเครียดหรือวิตกกังวล สมองส่วนหน้าด้านขวา หรือ Right prefrontal cortex ก็จะทำงานมากขึ้น ศาสตราจารย์ริชาร์ด เดวิดสัน สแกนสมองคนที่นั่งสมาธิ พบว่า สมองส่วนหน้าด้านซ้ายที่ทำงานเวลาเรามีความสุข มีการทำงานมากกว่าปกติหรือพูดง่ายง่ายก็คือคนที่นั่งสมาธิมีความสุขมากกว่าคนทั่วไป ก็คือ สมาธิส่งผลให้สมองมีความสุข

ส่วนที่ 2 เจ้าสมองส่วน Insula (อินซูลา) จะเป็นสมองส่วนที่รับรู้ปฏิกิริยาของร่างกาย เช่น ตอนนี้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ตอนนี้มีการหายใจที่หอบลึก กล้ามเนื้อหดเกร็ง ตัวสั่น หรือว่าคิ้วขมวดอยู่ สมองส่วนนี้จะทำงาน จากการทำงานวิจัยโดยเอาคนใส่เข้าไปในเครื่องทดลองทั้งตัว แล้วช็อตไฟฟ้าไปที่เท้าของผู้ทำการทดลอง พอโดนช๊อตด้วยไฟฟ้าแล้ว ก็จะมีความกลัว ความกังวลเกิดขึ้น ซึ่งความกังวลระหว่างรอช็อตเค้าเรียกว่า anticipatory pain anxiety คือ การคาดการณ์เรื่องของความเจ็บปวด ในกลุ่มที่นั่งสมาธิ ความกังวลนี้ จะมีน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้นั่งสมาธิ ภาพคลื่นสมองจะนิ่งๆ แต่คลื่นสมองคนที่ไม่นั่งสมาธิ จะคลื่นถี่แบบฟันปลาหยักๆ เพราะมีความวิตกกังวล ความกลัว

มีตัวอย่างพี่คนหนึ่ง ภรรยาเพิ่งเสียชีวิต ลูกก็ป่วย ตัวเองก็ไม่มีอาชีพ ส่งผลให้เขาเครียดหนักขนาดที่ว่า รอยยิ้มบนใบหน้าหายไปเลย หน้าหม่นหมอง นอนก็ไม่หลับสุขภาพแย่ แล้วยังต้องกังวลว่าลูกชายที่ป่วย อาการจะหนักขึ้นมั้ย ถ้าต้องสูญเสียใครไปอีกคน ตัวเองไม่ไหวแน่ แต่ในความโชคร้าย เขาได้ฝึกนั่งสมาธิ เหตุผลแค่อยากเปลี่ยนเรื่องคิด เพราะถ้าไม่นั่งสมาธิ ก็คิดวนซ้ำๆ เรื่องเดิม พี่เขานั่งสมาธิในคอร์สสมาธิออนไลน์ นั่งที่บ้าน ผ่านระบบออนไลน์  ได้นั่งไปพร้อมกับเพื่อนๆ ในคอร์ส เพียงแค่ 7 วัน เขาบอกว่า รู้สึกมีความสุข มีความสบายใจอยู่ลึกๆ คนอื่นอาจไม่เห็นแต่พี่เขารู้สึกได้ แล้วตอนนี้ จากคนที่รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป กลายเป็นคนยิ้มง่าย มีความสุข พี่เขาสามารถมองโลกตามความเป็นจริง ไม่กังวลอดีต ไม่มโนภาพขึ้นมาเองแล้วทำให้ตัวเองเจ็บปวดอีกแล้ว ตอนนี้พร้อมเผชิญปัญหาอย่างมีพลัง เค้าพูดว่า “สมาธิเปลี่ยนแปลงให้ผมมีความสุข  สบาย ปลอดโปร่งขึ้น” 

ข้อสุดท้ายนี้ จากการทดลองพบว่า สมาธิมีผลต่อสมองส่วนที่ 3 คือ Amygdala (อมิกดาลา) เป็นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ เป็นส่วนให้สมองติดอยู่กับความคิดลบ ความกังวลหรือติดอยู่กับเรื่องแย่ๆ ร่างกายจะตอบสนองแบบร้ายๆ ตามสัญชาตญาณ หลายคนเป็นแล้วหาทางออกไม่ได้ เวลาเรื่องแย่ๆ เช่น เกรดตก อกหัก พ่อแม่ไม่รัก เป็นหนี้ แล้วออกจากสิ่นนั้นไม่ได้ คิดซ้ำๆวนไปวนมา บางคนคิดย้ำๆ ซ้ำ จากเรื่องที่ไม่มีอะไร คิดไกลจนใหญ่โต หรือบางคนคิดซ้ำไปซ้ำมา เรื่องบางเรื่องยังไม่รุนแรง แต่คิดล่วงหน้าไปก่อนแล้ว ตรงนี้ ถ้าไม่ผ่อนคลาย จะกลายเป็นซึมเศร้า หรือเบาหน่อยก็รู้สึกตัวเองไม่มีคุณค่า เกิดปมด้อย ดูถูกตัวเอง ไม่ภูมิใจในตัวเอง อยากเป็นจุดเด่น ซึ่งถ้าแค่ผ่อนคลายด้วยอะไรที่เพลินๆ ก็ช่วยได้ แต่จะดึงเรื่องแย่ๆให้หลุดไปได้ต้องอาศัยสมาธิ จากการทดลองคนที่ฝึกสมาธิ สมองส่วนที่คิดลบมันจะฝ่อ ความคิดลบๆ จะถูกจัดการ ความกังวลหรือความเครียดก็จะน้อยลง สุขภาพจิตดีขึ้น

เมื่อคุณได้ฝึกสมาธิ จะเกิดผลดีกับสมอง ทำให้สมองคุณ มีความสุข ข้อแรกคือ สมองส่วนหน้าด้านซ้ายเป็นสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกดีๆและความสุขทำงานมากขึ้น ข้อที่ 2 สมองส่วน Insula (อินซูลา) เป็นส่วนที่รับรู้เกี่ยวกับการการรับรู้และการเคลื่อนไหวของร่างกายร่างกายจะใหญ่ขึ้น และสุดท้าย สมองส่วน Amygdala (อมิกดาลา) เล็กลง ทำให้เราไม่ผูกติดอยู่กับอารมณ์คิดลบ เครียดน้อยลง และนี่ก็เป็น 3 ข้อ ที่เปลี่ยนแปลงเมื่อนั่งสมาธิ สมาธิจึงส่งผลต่อคุณภาพชีวิต สุขภาพจิต และความสัมพันธ์ของคุณโดยเฉพาะ