แก้กรรมให้ได้ผลด้วยพุทธวิธี

แม้ชีวิตอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิดหรือหวังไว้ แต่คุณสามารถเลือกในสิ่งที่คุณต้องการจะเป็นได้เสมอ …วิธีการแก้กรรมให้ได้ผล ด้วยพุทธวิธี หลักธรรมคำสอนในพระพุทธศาสนาที่จะทำให้คุณออกแบบชีวิตได้ด้วยตัวของคุณเอง
ย้อนไปสมัย 2,500 กว่าปีก่อน ในคืนวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงประทับใต้ต้นโพธิ์ตลอดจนถึงรุ่งเช้า พระองค์ทรงตรัสรู้ธรรม และได้ค้นพบความจริงที่ว่า ในสังสารวัฏที่หาเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุดไม่ได้นี้ เราทุกคนล้วนเกิดมาแล้วนับภพนับชาติไม่ถ้วน หากเปรียบกองกระดูกที่ชีวิตหนึ่ง เกิด-ตาย ตลอดหนึ่งกัป รวมกันแล้วขนาดเท่ากับภูเขาทั้งลูกเลยทีเดียว น้ำตาที่เกิดจากความโศกเศร้าในแต่ละชาติที่เกิดมามากกว่าน้ำในมหาสมุทรทั้งสี่มารวมกัน แม้ทุกคนในโลกที่พบเจอต่างก็เคยเวียนตายเวียนเกิดเป็นญาติกันมาแล้ว และบุญ-บาป ที่เคยได้กระทำกันมายังส่งผลให้ไปเกิดเป็นทุกอย่างมาแล้วเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เทวดา มนุษย์ สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย แม้แต่ไปเสวยวิบากในนรกก็ตาม จะเห็นว่าบุญหรือบาปที่เราได้ทำไว้คงมีไม่น้อยเลย

แต่ในเมื่อภพชาติปัจจุบันนี้ เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ได้พบเจอกับพระพุทธศาสนาแล้ว ถือว่าเป็นผู้มีบุญมากๆ เพราะถ้าหากว่าไม่ได้มีความรู้เรื่องบุญบาป คนส่วนใหญ่เมื่อได้พบเจอกับสิ่งที่ไม่ชอบใจ ความทุกข์ใจต่างๆ ก็จะมองว่าเป็นเพราะคนนั้นคนนี้ที่ทำให้เรามีความทุกข์ หรือน้อยใจในโชคชะตา และเมื่อประสบความสำเร็จก็คิดว่าเป็นเพราะหนึ่งสมองสองมือ เราเก่งด้วยฝีมือของเรา เลยลืมคิดไปว่า คนเก่งกว่าเราก็มีเยอะ แต่เขาไม่ประสบผลสำเร็จ จริงๆ แล้วเราก็ไม่ได้เก่งเกินกว่าเขา แต่เราประสบความสำเร็จ แท้จริงแล้วเป็นเพราะว่ามี บุญ-บาป อยู่เบื้องหลังทำให้ทุกชีวิตเกิดมาแตกต่างกัน แม้แต่ฝาแฝดที่เกิดมาด้วยกันก็ยังไม่ได้มีชีวิตที่เหมือนกันเลย
และในเมื่อ บุญ-บาป ที่เคยได้ทำไว้ในภพชาติก่อนๆ แม้ว่าเราจะจำไม่ได้ แต่ก็ยังคงตามมาส่งผลอยู่ตลอดเวลา ด้วยบุญที่ทำมาทำให้เรายังมีชีวิตที่ดำเนินต่อไปได้ มีกิน มีใช้ มีสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต ทุกขณะที่ได้ดำเนินชีวิต เรากำลังใช้บุญเก่าที่เคยทำไว้ เมื่อเราใช้บุญเก่าทุกวัน จึงต้องหมั่นที่จะเติมบุญ ทั้ง ทาน ศีล ภาวนา เพราะบุญแต่ละอย่างให้ผลที่แตกต่างกัน

การแก้ไขวิบากกรรมที่ได้ทำมาแล้ว จึงต้องเติมบุญมากๆ หากเปรียบบาปเหมือนเกลือ บุญเปรียบเหมือนน้ำ เมื่อเราหมั่นเติมบุญก็เหมือนกับเติมน้ำลงไป น้ำก็จะเจือจางเกลือที่มีอยู่ ยิ่งเติมมาก แม้น้ำนั้นมีเกลือผสมอยู่ แต่ก็แทบไม่มีความเค็มอยู่เลย การเติมบุญจึงช่วยในการตัดรอนวิบากกรรมให้ จากหนัก เป็นเบา จากเบา เป็นหาย จากร้ายก็กลายเป็นดี
และวิธีการที่จะทำให้ได้ผลบุญมากจนวิบากกรรมถูกตัดรอนได้ เราก็ต้องมีใจที่ผ่องใส หากเปรียบใจเราเป็นภาชนะรองรับบุญ ยิ่งใจผ่องใส ก็เหมือนภาชนะใจยิ่งมีขนาดใหญ่ ยิ่งรองรับบุญได้มาก และ ใจที่ผ่องใสก็จะดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต การทำสมาธิเป็นเคล็ดลับที่จะทำให้มีใจที่ผ่องใส รองรับบุญที่เราทำได้มาก หากใครทำสมาธิอย่างสม่ำเสมอ จนมีใจที่ผ่องใสเป็นปกติก็เหมือนกับได้เติมบุญตลอดเวลา วิบากกรรมที่ตามส่งผลอยู่จึงจะไม่ได้ช่องทางที่จะส่งผล และนี่ก็คือการแก้กรรมที่ได้ผลเร็วแรงนั่นเอง
ผลจากการสมาธิอย่างสม่ำเสมอยังทำให้เกิดความรู้สึกอยากทำความดี สมาธิจึงส่งเสริมให้ทำบุญได้มากขึ้น มีความคิด คำพูด การกระทำที่ดีได้โดยอัตโนมัติ ส่งผลให้มีความสุข ความเจริญ ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ที่จะตามมาอีกด้วย

ถึงแม้วิบากกรรมที่ทำไว้ยังมีกำลัง ทำให้ตามมาทันส่งผล แต่ถ้าเราหมั่นทำสมาธิ ปัญญาจากการทำสมาธิยังช่วยให้เราแก้ไขปัญหาต่างๆ และมีใจที่ปล่อยวางได้ง่าย ไม่ทุกข์ร้อนกับปัญหาต่างๆ มากเกินไป เพราะสามารถสร้างความสุขด้วยตนเองจากการทำสมาธิ
เพราะฉะนั้นแล้วนอกจากสมาธิจะทำให้เราได้พบความสุขจากใจที่สงบ เป็นความสุขที่ชุ่มเย็น มีความเบากายเบาใจ เป็นความสุขที่ไม่ต้องพึ่งพาสิ่งภายนอก และนอกจากสมาธิจะส่งเสริมให้ทำความดีแล้ว สมาธิยังช่วยให้ลดกิเลสในใจ ลดละในสิ่งที่ไม่ดี หรือการกระทำที่ส่งผลให้เราต้องได้รับวิบากกรรมเพิ่มเติมอีกด้วย และถ้าหากเราฝึกทำสมาธิไปเรื่อยๆ วันละเล็กวันละน้อย ทำบ่อยๆ เราจะคุ้นชิน เมื่อได้รับประโยชน์จากการทำสมาธิแล้ว จะรู้สึกว่าสมาธิเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตที่เราขาดไม่ได้ เหมือนข้าวที่เราต้องทานทุกวัน เหมือนกับน้ำที่เราต้องอาบทุกๆ วันเลย
และหากอยากได้แรงบันดาลใจดีๆ ในการทำสมาธิ หรือมาลองฝึกสมาธิ ให้ความสุขเกิดขึ้นได้ง่ายๆ ทุกๆ วัน ก็ไม่ยากเลย แค่มาร่วมกันกลั่นใจให้เป็นสุข ทำสมาธิแบบออนไลน์กับเพื่อนๆ ทั่วโลกโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ทุกวัน เวลา 20:00 – 21:45 น. แล้วจะพบกับความมหัศจรรย์ของสมาธิด้วยตัวของเราเอง