ความสำเร็จ สร้างได้ด้วยสมาธิ

     ไขความลับ เทคนิคในการสร้างสมาธิ ของคนระดับท็อป 1%  ที่ไม่ว่าใครสามารถนำมาใช้ได้…บทสรุปจากหนังสือความสำเร็จสร้างได้ด้วยสมาธิ

   อะไรคือสิ่งที่มีร่วมกันของคนระดับท็อป 1% ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเป็นนักวิเคราะห์การสร้างผลิตภาพทางปัญญา (intellectual productivity analyst) และเป็นเจ้าของงานเขียนมากมายได้ทำการศึกษา ค้นคว้า และพบว่าสิ่งนั้นคือ “พลังสมาธิ”

      สำหรับพวกเราส่วนใหญ่ที่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า “สมาธิ” ในแง่มุมของการเจริญสติภาวนา (และดูจะเป็นเรื่องของผู้ทรงศีลเท่านั้น) แต่สำหรับคุณ Nagata ผู้เขียน คำว่า “สมาธิ” กลับเป็นเคล็ดลับของคนระดับท็อป 1% ที่ทุกคนสามารถนำเทคนิคเคล็บลับนี้มาใช้ได้ทั้งในเรื่องการเรียนและการทำงาน

     ผู้เขียนได้ค้นคว้าประวัติของผู้ที่ประสบความสำเร็จหลายๆ คน (เช่น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้ง facebook, เจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้ง amazon, แลร์รี เพจ และเซอร์เกย์ บริน ผู้ก่อตั้ง google, บารัค โอบามา อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา) และค้นพบว่าพวกเขาเหล่านั้น มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นคือ พวกเขาเคยผ่านหลักสูตรของมอนเตสเซอรี (Montessori) ซึ่งเกี่ยวข้องกับ “พลังสมาธิ” 

  โดยมีหลักการสำคัญ คือ การเสริมสร้างความเป็นอิสระ (autonomy) และพลังแห่งสมาธิ (power of concentration) ทำให้เกิดการมุ่งมั่นจดจ่อและทำจนถึงที่สุด เกิดแรงผลักดันภายในที่รุนแรง ประสาททั้งหมดมีสมาธิจดจ่อกับการแก้ปัญหา สภาวะนี้เองที่ทางจิตวิทยาเรียกว่า “สภาวะไหลลื่น” (flow)

      “สภาวะไหลลื่น” คือ สถาวะที่รู้สึกอิ่มเอิบ เป็นความปิติยินดีที่เกิดขึ้นเมื่อเรามีสมาธิจดจ่ออย่างแน่วแน่ เกิดขึ้นได้โดยการสร้าง “วัฎจักรแห่งสมาธิ” ซึ่งประกอบไปด้วยสี่กระบวนการที่เมื่อดำเนินการจนครบและวนกลับไปที่จุดเริ่มต้นในกระบวนการแรกอีกครั้ง กลายเป็นวัฎจักรที่ดำเนินต่อไปสู่ระดับที่สูงขึ้นกว่าเดิม กระบวนการทั้งสี่ ได้แก่

  1. การค้นพบโอกาสที่ท้าทาย คือ การตั้งเป้าหมายที่มีสมดุลระหว่างระดับความยากง่าย และทักษะความสามารถที่จะทำให้เกิดสภาวะไหลลื่น ถ้าเป็นไปได้ควรจะเป็นเป้าหมายที่เรากำหนดเอง รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนเป้าหมายใหญ่และแบ่งให้เป็นเป้าหมายเล็กๆ ที่จะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายใหญ่ในที่สุด
  2. ประสบการณ์ความเป็นอิสระและสมาธิ คือ การมีสมาธิจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ เลือกเป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่งเพียงอย่างเดียวในขณะหนึ่ง เพราะหากทำอะไรหลายอย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกันก็จะขาดสมาธิ
  3. ความอิ่มเอมเป็นสุขเพราะความสำเร็จ คือ การที่สนุกและมีความสุขกับงานที่ทำจนสำเร็จ จนเกิดความรู้สึกว่า “อยากทำอีก” ซึ่งเรียกร้องให้เราลองทำสิ่งใหม่ๆ ที่ท้าทายกว่าเดิม
  4. การพัฒนาจิตใจและทักษะชีวิต คือ การพัฒนาตัวเอง แม้จะเป็นการพัฒนาขึ้นแค่เพียง 1% ก็ตาม แต่ถ้าเราพยายามพัฒนาตัวเองให้ดีกว่าคนเดิมในทุกๆ วัน การค่อยๆ ปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นทีละเล็กทีละน้อยนี้ ก็จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยิ่งใหญ่

    ในบทสุดท้ายผู้เขียนได้แน่นย้ำอีกครั้งถึง บทบาทของ “พลังสมาธิ” ที่มีต่อการประสบความสำเร็จทั้งในการทำธุรกิจ และวงการกีฬา (เช่น กำเนิดกระดาษ post-it, การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เปลี่ยนโลกของ สตีฟ จ็อบ) โดยองค์กรที่ถูกผลักดันด้วยพลังสมาธิของพนักงานจะเป็นองค์กรที่เติบโตพัฒนาได้สูงสุด

      ดังนั้นเราควรจะต้องรู้ เทคนิคการพัฒนา “พลังแห่งสมาธิ” คือ ความสามารถที่จะขจัดสิ่งรบกวนอื่นออกไปและจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวันของเรา ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใครๆ ก็ทำได้ ไม่ใช่พรสวรรค์ที่มีแต่กำเนิดและไม่ใช่เรื่องบังเอิญ มาสร้างพลังแห่งสมาธิให้เกิดขึ้นในตัวคุณกับ คอร์สสมาธิออนไลน์กลั่นใจให้เป็นสุข คอร์สเรียนสมาธิแบบง่ายๆ สบายๆ ผ่อนคลาย และได้ผลจริง หลักสูตรเรียนฟรี 7 วันต่อเนื่อง ไม่เสียค่าใช้จ่าย 

"เพราะจะเดินหน้าจนสำเร็จได้ ไม่ได้อยู่ที่ขา แต่อยู่ที่ใจ"