12 นิสัยเปลี่ยนชีวิต

        นิสัยอะไรที่จะช่วยให้เราเปลี่ยนชีวิตและฝ่าฟันกับทุกอย่างได้ หากสร้างมันให้แข็งแรง บทสรุปจากหนังสือที่มีชื่อว่า ‘Have A Nice LIfe’ ของคุณนิ้วกลม ซึ่งผู้เขียนได้อ่านหนังสือหลายๆ เล่มและลองนำมาปฏิบัติจริง ใครที่ได้อ่านเล่มนี้เหมือนได้อ่านสรุปหนังสือหลายสิบเล่มเลย แล้วมีนิสัยอะไรบ้าง ไปดูกันเลยย….

นิสัยที่ 1 ฝึกตื่นให้เช้าขึ้น

      การตื่นแต่เช้าในที่นี้ หมายถึงการตื่นให้เร็วขึ้น เพื่อทำสิ่งที่อยากทำ เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ หรือได้ทำประโยชน์มากขึ้น หากเราตื่นได้เร็วขึ้น 1-2 ชั่วโมง เมื่อนับเป็นปี เราจะมีเวลาเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย

นิสัยที่ 2 จัดเวลา

       ปรับเวลาชีวิตและการทำงานให้เหมาะสมกับตัวเอง เพราะคนเรามีช่วง Flow ต่างกัน หากจัดประเภทที่เหมาะกับเราได้จะมีประโยชน์มาก แยกแยะความสำคัญและเร่งด่วนของกิจกรรมต่างๆ จากนั้นลงมือทำสิ่งที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วนก่อน เพราะหากไม่ทำแต่เนิ่น สุดท้ายก็จะกลายเป็นเรื่องสำคัญและเร่งด่วนที่ต้องทำอยู่ดี   และอีกอย่างคือการจัดลำดับความสำคัญ และลดทอนกิจกรรมที่ไม่จำเป็น กิจกรรมที่ทำให้มากขึ้น เช่น การออกกำลังกาย การวางแผนงาน การดูแลความสัมพันธ์ของครอบครัว

นิสัยที่ 3 ฝึกทำงานยากก่อน

    แจกแจงเรื่องที่ต้องทำในแต่ละวัน แล้วทำงานที่ยากก่อน ไม่ควรใช้เวลากับกรวดทรายที่ไม่สำคัญก่อนหินก้อนใหญ่ จากหนังสือของ Brian Tracy เปรียบเทียบงานที่ยากและสำคัญมากที่สุดนั้นคือกบ เมื่อเราตื่นเช้ามาก็ให้ยัดกบนั้นเข้าปาก หรือทำสิ่งนั้นก่อน จากนั้นเรื่องอื่นๆ จะกลายเป็นเรื่องง่าย ทั้งวันเราจะรู้สึกสบาย สมองจะตื่นตัวมากขึ้น เพราะได้ทำงานยากไปแล้ว กำหนดเส้นตายหลอกในการทำงานขึ้นมา เพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น เช่น งานกำหนด 3 วัน ให้คิดว่าทำภายใน 1 วัน แล้วเราจะทำตามนั้นได้

นิสัยที่ 4 ฝึกไต่บันไดความล้มเหลว

     การทำอะไรก็ตาม จะสำเร็จหรือล้มเหลว ไม่สำคัญเท่าเราเรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นั้น และจงเข้าใจว่าความล้มเหลวเป็นขั้นตอนหนึ่งของความสำเร็จ แต่เราไม่จำเป็นต้องล้มเหลวเองทั้งหมด สามารถเรียนรู้จากความล้มเหลวของผู้อื่นได้ ด้วยการรับฟังความคิดเห็นอย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งจะช่วยให้เราผ่านปัญหาใหญ่ในชีวิตได้ เราจะมีใจที่เปิดกว้างและยอมรับในข้อด้อยของตนเอง 

นิสัยที่ 5 ฝึกเทชาออกจากถ้วย

     ถ้วยชาที่เต็มแล้วไม่สามารถใส่อะไรลงไปได้อีก เทชาออกมาพักไว้ก่อน แล้วกล้าโง่บ้าง เราจะทำอะไรได้หลากหลายและสนุกกับการทดลองมากขึ้น คนที่มี growth mindset จะมีความคิดเน้นที่กระบวนการ ไม่เน้นผลลัพธ์ เน้นการเรียนรู้จากการลงมือทำ เพื่อให้เราได้เติบโต

นิสัยที่ 6 ฝึกคิดช้า
  • สมองระบบ 1 คิดเร็ว ใช้ความรู้สึก   
  • สมองระบบ 2 คิดช้าและใช้เหตุผล

     การตัดสินใจส่วนใหญ่ในชีวิตเป็นไปตามอารมณ์ แล้วค่อยหาเหตุผลมาสนับสนุนสิ่งที่ตัดสินใจไปแล้ว การฝึกคิดช้าโดยการใช้สมองระบบ 2 คือ ใช้เหตุผลให้มากขึ้นจะช่วยลดทอนความผิดพลาด

นิสัยที่ 7 ฝึกเป็นผู้ฟังที่ดี

     การรับฟังอย่างลึกซึ้งคือการแสดงความรัก นำมาซึ่งความใกล้ชิดและไว้วางใจ ยิ่งเราฟัง อีกฝ่ายยิ่งอยากเล่า ความสัมพันธ์ก็ยิ่งเข้าใจกันมากขึ้น การฟังที่ดีต้องฟังในสิ่งที่นอกเหนือจากคำพูด ไม่รีบยัดเยียดคำแนะนำ อดทนฟังในสิ่งที่ขัดใจหรือไม่ถูกใจ การฟังจะเปลี่ยนทั้งชีวิตเราและคนที่เรารับฟังได้

นิสัยที่ 8 คิดถึงคนอื่น

       ทุกพฤติกรรมที่แสดงออกมาเป็นเพียงยอดภูเขาน้ำแข็งของจุดมุ่งหมายที่อยู่ลึกลงไปข้างใต้ เราไม่สามารถมองเห็นได้ทั้งหมด เราจึงต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น เรียนรู้จากความต่าง รับฟัง ให้เกียรติและให้ความสำคัญกับ ‘จุดมุ่งหมาย’ ของคนที่อยู่ข้างหน้าเรา ไม่จำเป็นต้องหวงคำชม เพราะคำชมของเรา อาจช่วยให้คนนั้นมีพลังทำดีต่อไป

นิสัยที่ 9 รู้จักให้

      เมื่อเป็นผู้ให้เราจะรู้สึกดี คุณค่าและรายได้ของเราวัดจากสิ่งที่เราให้กับผู้อื่น ยิ่งให้มาก ยิ่งได้รับมาก แต่ไม่ควรให้แบบต้องการผลตอบแทน รู้จักให้แล้วต้องรู้จักรับด้วย เปรียบเสมือนลมหายใจเข้าและออก

นิสัยที่ 10 ฝึกอดทน

       มีชีวิตแบบอื่นรอเราอยู่ แค่เราต้องข้ามผ่านช่วงเวลาที่ต้องอดทนทรมานไปให้ได้ ความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ เสมอ

       การจะสร้างนิสัยใหม่เกิดจาก 2 อย่าง นั่นคือ ฝึกฝนและฝึกฝืน อาจเริ่มฝึกด้วยการปรับนิสัยการกิน ซึ่งเป็นหนึ่งในสิ่งที่ฝึกฝืนได้ยาก ฝึกฝืนและอดในสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพหรือกินมื้อน้อยลง หากทำได้สมาธิจะเพิ่มขึ้น และนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ได้

นิสัยที่ 11 ฝึกขยับและหลับดี

     การนั่งนานอันตรายและเป็นการตายผ่อนส่ง การขยับตัวระหว่างวันเป็นการชาร์จพลังแบบหนึ่ง เมื่อได้ออกแรงจะทำให้หลับดีขึ้น วันที่ดีเริ่มขึ้นจากเมื่อคืนนอนหลับดีรึเปล่า หาก ‘นอนหลับดี’ ชีวิตจะเปลี่ยนไป

นิสัยที่ 12 ฝึกสมาธิ

      เมื่อมี ‘สมาธิ’ เราจะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เกิด ‘สภาวะลื่นไหล’ รับรู้ข้อมูลได้คมชัดกว่าเดิม แต่ในปัจจุบันเรากลับถูกแย่งชิงสมาธิไปด้วยสื่อสมัยใหม่ถี่ขึ้นเรื่อยๆ ‘ไม่มีเวลา’ หลายคนอาจจะพูดถึงคำนี้ ซึ่งเกิดจากเราไม่มีเวลาที่มีคุณภาพ  เรียนรู้การฝึกสมาธิแบบง่ายๆ ไม่ว่าใครก็สามารถเรียนได้ ฟรีตลอดหลักสูตร คลิกที่นี่  

     การฝึกนิสัยเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็อย่าไปกดดันตัวเองมากเกินไป อีกนิสัยสำคัญที่ฝากไว้ทิ้งท้ายไว้ก็คือความยืดหยุ่น โดยเฉพาะยืดหยุ่นกับความคาดหวังของตัวเอง บางอย่างอาจยังไม่ถึงเป้าหมาย หรือรู้สึกว่าเดินช้าเกินไป แต่อย่างน้อยเราก็ได้ก้าวไปข้างหน้าแล้ว ชื่นชมและยินดีกับตัวเองบ้าง จะได้มีความสุขระหว่างทาง