ทำบุญอะไร อานิสงส์แรง

    เวลาทำบุญเราก็อยากทำให้ถูกหลักและทำแล้วได้บุญมากๆ แล้วบุญอะไรล่ะที่ลงทุนน้อย แต่ได้บุญมากกว่าบุญอื่นๆ อย่างเทียบกันไม่ได้เลย

        ก่อนอื่นมาดูความหมายของบุญก่อนว่าหมายถึงอะไร คำว่า “บุญ” หมายถึง การกระทำความดี บุญมาจากภาษาบาลี คือ คำว่า “ปุญญะ” แปลว่า เครื่องชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ การชำระจิตใจจากเครื่องเศร้าหมองทั้งหลายโลภะ โทสะ หรือโมหะ

      “บุญ” ในอีกความหมาย แปลว่า เต็ม มีความสุข เป็นการตั้งใจและเต็มใจทำ ผลคือเกิดความสุขในระยะยาว เพราะฉะนั้นแล้วบุญที่ทำแล้วได้บุญมากที่สุดก็คือ บุญที่จะช่วยชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ มีผลให้เกิดความสุขในระยะยาวมากที่สุด ก็คือบุญจากการเจริญสมาธิภาวนา เพราะทำให้ใจได้รับความสุขสงบ และทำให้สามารถพ้นทุกข์ได้ในที่สุดนั่นเอง

       การเจริญภาวนาเป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุด และยิ่งใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา จัดว่าเป็นแก่นแท้และสูงกว่าฝ่ายศีลมาก (แต่ถึงอย่างไร สมาธิจะดีได้ก็ต้องมีศีลเป็นฐานก่อน) เพราะทำให้สามารถพ้นทุกข์ได้ อานิสงส์ของสมาธินั้น มีมากกว่าการรักษาศีลอย่างเทียบกันไม่ได้ ซึ่งพระพุทธองค์ได้ตรัสว่า

"แม้จะได้อุปสมบทเป็นภิกษุรักษาศีล 227 ข้อ ไม่เคยขาด ไม่ด่างพร้อยมานานถึง 100 ปี ก็ยังได้บุญกุศลน้อยกว่า ผู้ที่ทำสมาธิ เพียงให้จิตสงบนานเพียง ชั่วไก่กระพือปีก ช้างกระดิกหู"

     คำว่า “จิตสงบ” ในที่นี้หมายถึงจิตที่เป็นอารมณ์เดียวเพียงชั่ววูบ ที่พระท่านเรียกว่า “ขณิกสมาธิ” คือสมาธิเล็กๆ น้อยๆ สมาธิแบบเด็กๆ ที่เพิ่งหัดตั้งไข่ คือหัดยืนแล้วก็ล้มลงแล้วก็ลุกขึ้นยืนใหม่ ซึ่งเป็นอารมณ์จิตที่ยังไม่ตั้งมั่น สงบวูบลงเล็กน้อยแล้วก็รักษาไว้ไม่ได้ ซึ่งยังห่างไกลต่อการที่จิตถึงสมาธิในระดับที่แน่วแน่มั่นคง แม้กระนั้นก็ยังมีอานิสงส์มากมายถึงเพียงนี้

    เหตุที่การทำสมาธิได้อานิสงส์มากเพราะ หากผู้ใดทำสมาธิจนจิตตั้งมั่นในอารมณ์เดียว หรือมีใจที่สงบ หยุดนิ่งแล้ว ก็จะมีกำลัง และอยู่ในสภาพที่นุ่มนวล ควรแก่การเจริญภาวนาในระดับที่สูงขึ้นไป จนกระทั่งเกิดเป็นปัญญาที่ไม่ได้เป็นเพียงการนึกคิดและคาดหมายเอา แต่ย่อมมีตาวิเศษหรือตาใน ที่พระท่านเรียกว่า “ญาณทัสสนะ” ซึ่งเป็นปัญญาที่เกิดจากการรู้แจ้งเห็นจริงนั่นเอง

      เมื่อเกิดการเห็นแจ้งหรือวิปัสสนาญาณแล้ว ย่อมทำให้กิเลสเบาบางลง จิตก็ย่อมจะเบาและใสสะอาดบางจากกิเลสทั้งหลายไปตามลำดับ สมาธิจิตก็จะยิ่งก้าวหน้าและตั้งมั่นมากยิ่งๆ ขึ้นไป ฉะนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีจิตที่สงบหยุดนิ่งก่อน ไม่เช่นนั้นก็ไม่มีทางที่จะเจริญวิปัสสนาปัญญาได้ ซึ่งพระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า

"ผู้ใดแม้จะทำสมาธิจิตเป็นฌานได้นานถึง 100 ปี และไม่เสื่อม ก็ยังได้บุญน้อยกว่าผู้ที่มองเห็นความเป็นจริงที่ว่า สรรพสิ่งทั้งหลายอันเนื่องมาจากการปรุงแต่ง ล้วนแล้วแต่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา แม้จะเห็นเพียงชั่วขณะจิตเดียวก็ตาม "

      ดังนี้จะเห็นได้ว่าวิปัสสนาเป็นสุดยอดของการสร้างบารมี และเป็นบุญที่ไม่เหนื่อยยากลำบาก ไม้ต้องแบกหาม ไม่ต้องลงทุนหรือเสียทรัพย์เลย แต่ตราบใดที่เรายังไม่ถึงฝั่งพระนิพพาน ก็ต้องทำทุกๆ บุญ โดยทำทั้งทาน ศีล และภาวนา ถ้าเจริญภาวนาอย่างเดียวโดยไม่ยอมลงทุนทำบุญให้ทานใดๆ ไว้เลย เมื่อเกิดชาติหน้าก็เลยมีแต่ปัญญาอย่างเดียว ไม่มีจะกินจะใช้ ซึ่งก็จะยากที่จะเจริญวิปัสสนาในภพชาติต่อๆ ไป ให้ถึงฝั่งพระนิพพานไปได้เหมือนกัน

    เชิญชวนทุกท่านมาเรียนรู้การทำสมาธิแบบง่ายๆ แต่ลึกซึ้ง ที่จะเป็นพื้นฐานที่จะเจริญสมาธิภาวนาที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไปใน  คอร์สสมาธิออนไลน์กลั่นใจให้เป็นสุข ซึ่งเป็นคอร์สเรียนฟรีตลอดหลักสูตร แล้วให้บุญกุศลที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นกับตัวเรา ด้วยการฝึกใจให้สุขสงบ ผ่องใสยิ่งๆ ขึ้นไปกันนะคะ