สมาธิที่มากกว่าการผ่อนคลาย

     ในยุคปัจจุบันนี้ ผู้คนบนโลกล้วนตกอยู่ในยุคแห่งความเครียด ความกังวล ความเร่งรีบ และความเลวร้ายของโรคระบาด ซึ่งสิ่งที่จะช่วยให้ทุกคนมีความคลายจากปัญหาดังกล่าว และยังเป็นกระแสที่มาแรงในตอนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่องของการทำสมาธิ ที่สามารถนำมาบำบัดจิตใจให้มีความสามารถรับมือจากปัญหาดังกล่าวได้ ซึ่งการทำสมาธิก็ไม่ได้เป็นสิ่งใหม่ เพราะว่าคนส่วนใหญ่ไม่คุ้นชินกับกิจกรรมที่อยู่นิ่งๆ กับตัวเองที่มากกว่าการผ่อนคลาย อยู่กับใจของเรา อยู่กับความสบายอย่างการทำสมาธิ

     สำหรับคนที่ยังไม่เคยทำสมาธิมาก่อน อาจจะคิดว่าเป็นเรื่องยากทำไม่ได้ หรือไม่เชื่อว่าการทำสมาธิจะมีประโยชน์มากมายขนาดนั้น ดังนั้นจึงอยากชวนคุณมาเริ่มทำสมาธิง่ายไปพร้อมๆ กัน โดยอาศัยเทคนิคการทำสมาธิแบบง่ายๆ ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำตามได้ ไม่ว่าจะคุณจะเป็นคนขี้เบื่อ หรือมีไลฟ์สไตล์ แบบไหนก็ตาม

“4 ขั้นตอนง่ายๆ” เริ่มนั่งสมาธิ

  • เริ่มจากการเลือกสถานที่ที่คุณชอบ นั่งให้สบายและผ่อนคลายจะนั่งบนที่นุ่มๆ หรือบนพื้น หรือบนเก้าอี้ ขอเพียงอย่านั่งบนเตียงนอนของคุณตคุณอาจจะหลับก่อนได้ ยืดตกขึ้น ไม่นั่งหลังค่อม วางมือในท่าที่ถนัด ไม่จำเป็นต้องอยู่ในท่าขัดสมาธิเสมอไป โยกซ้าย โยกขวา เบาๆสัก 2-3 ครั้ง
  • อาจจะเปิดเพลงบรรเลงเบาๆ ให้ผ่อนคลาย เพื่อให้ร่างกายสงบลง และเป็นการส่งสัญญาณบอกตัวเองว่าเรากำลังเข้าสู่โหมดทำสมาธิ เคลียร์สมองให้โล่ง เลิกพะวงถึงเรื่องใดๆ วางทุกสิ่ง ทิ้งทุกอย่าง
  • เข้าสู่การทำสมาธิ โดยจะลืมตาหรือหลับตาก่อนก็ได้ หายเข้าใจทางจมูก ปิดปาก โฟกัสที่การหายใจเข้าและผ่อนออก ลึกๆ ยาวๆ สัก 2-3 ครั้ง
  • หากในหัวคุณเริ่มมีความคิดเตลิดหรือมีอะไรโผล่เข้ามา ให้คุณลืมตาขึ้นมา แล้วให้ใจผ่อนคลาย แล้วค่อยๆเริ่มหลับตาลงใหม่อีกครั้ง (ขั้นตอนนี้จะยากในช่วงแรกแต่เมื่อทำไปบ่อยๆ จะชินไปเอง)

     แน่นอนว่าในช่วงแรกแม้เพียงไม่กี่นาที อาจดูเหมือนนานนับชั่วโมง แต่หากคุณฝึกฝนเป็นประจำทุกๆวัน อาจจะเช้าหลังตื่นนอน ก่อนเข้านอน หรือทุก 1 ชั่วโมงขอ 1 นาที  จิตของคุณจะนิ่งขึ้น บางวันอาจทำได้ดี ในขณะที่บางทีก็เอาไม่อยู่ ซึ่งเป็นธรรมชาติของการทำสมาธิ แต่หลักสำคัญคือให้ทำเป็นประจำเพื่อฝึกจิตและสมอง และเพื่อให้คุณเข้าถึงประโยชน์สูงสุดของการทำสมาธิ  มาเติมสุขให้ใจทุกวัน เติมวันละนิดจิตแจ่มใส ถ้าเมื่อใจใจติดแล้ว เราจะหลงรักการนั่งสมาธิ

ทำไมต้อง “นั่งสมาธิ”

      การทำสมาธิช่วยลดคอร์ติซอล ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียด ทำให้เราเครียดน้อยลง และคลายความวิตกกังวลที่อาจนำพาไปสู่ภาวะซึมเศร้า นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องการนอน หลังมีผลการวิจัยระบุว่าผู้ที่ทำสมาธิเป็นประจำจะหลับลึกและยาว ทำให้การนอนของคุณมีคุณภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดความดันโลหิต เพิ่มภูมิคุ้มกัน ความจำ และทำให้เราสามารถรับมือกับความเจ็บปวดที่เกิดจากความเครียด หรืออาการเจ็บป่วยเรื้อรังต่างๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย

      นอกจากเรื่องสุขภาพแล้ว การทำสมาธิยังเป็นประโยชน์กับงาน ทำให้เราโฟกัสและตัดสินใจได้อย่างแม่นยำ สามารถครองสติภายใต้ความกดดัน ด้านการเรียนรู้ ก็จะทำให้เราซึมซับความรู้ได้มากขึ้น มีความเข้าใจได้รวมเร็วขึ้น และสุดท้ายการทำสมาธิยังช่วยให้คุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้าง หลังกระตุ้นการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ทำให้เราเข้าใจคนอื่นได้ดียิ่งขึ้น เรื่องปวดหัวก็จะลดน้อยลง

  “หากคุณใจติดแล้ว คุณจะติดใจ”