การฝึกสติ เบื้องหลังความสำเร็จของ Google
มาดูกันว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีอิทธิพลกับโลกเราอย่าง Google ใช้การเจริญสติ ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างนวัตกรรมออกมาอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
เราอาจจะสงสัยใคร่รู้ว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Google ที่คิดว่าค่อนข้างห่างไกลกับเรื่องของสติ สมาธิ กลับกลายเป็นว่า บริษัทได้ใช้การเจริญสติให้เป็นประโยชน์ในการสร้างนวัตกรรมออกมาอย่างต่อเนื่อง และมีอิทธิพลต่อโลกของเราอย่างมาก สติ vs นวัตกรรมโลกของเทคโนโลยี และโลกของการเจริญสติ ไม่ได้อยู่ห่างไกลกันเลย แต่มันกลับพัฒนาไปด้วยกัน นั่นคือสิ่งที่ Google พิสูจน์ให้เห็น
บริษัท Google มีการส่งเสริมให้พนักงานทุกระดับฝึกการเจริญสติและทำสมาธิด้วยโปรแกรม Search inside Yourself ซึ่งก่อตั้งโดย ชาด หมิง ตัน (Chade Meng Tan) ชาวจีนสิงค์โปร์ ซึ่งเป็นวิศวกรคอมพิวเตอร์หมายเลข 107 ของ Google เขาทำงานเป็นวิศวกรรุ่นแรกๆ ซึ่งระยะแรกมีพนักงานร้อยกว่าคนและมีเฉพาะในอเมริกา แต่ปัจจุบันมีเป็นหมื่นคนกระจายทั่วโลก
Mr.Meng เป็นคนเอเชียที่สนใจศึกษาธรรมะ สมาธิ และการเจริญสติ ตั้งแต่เป็นนักศึกษา และหลังจากจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ จากมหาวิทยาลัยนานยาง ในสิงค์โปร์ เขาก็ไปเรียนต่อปริญญาโท สาขาเดียวกัน ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานตาบาร์บารา หลังจากนั้นเขาเข้าทำงานในบริษัทคอมพิวเตอร์หลายแห่ง ในฐานะวิศวกรซอฟแวร์ เขาเริ่มงานที่ Google ในปี 2000 โดยใช้เวลา 14 ปี ไต่เต้าจากวิศวกรระดับล่างจนถึงระดับบริหาร เขาได้บริหารงานในฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคล ตำแหน่งของเขาเรียกว่า Google’s Jolly good Fellow
Mr.Meng ได้กล่าวไว้ในหนังสือที่ชื่อว่า “Search Inside Yourself” ประโยชน์ของการฝึกสติตามหนังสือจะช่วยทำให้คุณมีทักษะที่สำคัญ 3 ประการที่ดีในการทำงาน ได้แก่
- ประสิทธิภาพการทำงานของคุณจะดีขึ้นอย่างมาก
- คุณจะมีทักษะความเป็นผู้นำที่โดดเด่นมากขึ้น
- คุณจะมีความสามารถในการสร้างสถานะที่ทำให้เกิด “ความสุข”
ด้วย 3 ทักษะนี้ เป็นทักษะสำคัญมากกับองค์กรใดๆ ก็ตามบนโลกใบนี้ ที่จะช่วยทำให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด และนั่นเป็นเหตุผลที่ Google ส่งเสริมการฝึกเจริญสติให้กับพนักงานตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบัน
โดยโปรแกรม Search Inside Yourself มีหลักการอยู่ 3 ประการ คือ
- ขั้นแรก คือ ฝึกให้เจ้าหน้าที่มีสติจดจ่อกับปัจจุบันให้ได้ (Attention) เพราะเขาเห็นว่าจะทำให้จิตมีสมาธิ ทำให้เกิดความผ่อนคลาย ไม่เครียด ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญทำให้สามารถพัฒนาได้
- ขั้นที่สอง คือ ฝึกให้มีสติในการมองเห็นอารมณ์ในใจตนเอง (Self- Awareness) เช่นเวลาโกรธก็กำหนดรู้ได้ทัน รู้อารมณ์ตัวเอง ซึ่งจะเป็นการพัฒนาอีคิว ทำให้มีอีคิวดี และสามารถควบคุมอารมณ์ได้ดีมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความสุขในการทำงาน สามารถคิดสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้
- ขั้นสุดท้าย คือ ฝึกต่อยอดให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทมีอุปนิสัยการเป็นคนมีเมตตากรุณา รู้จักเห็นใจผู้อื่น มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักการให้ซึ่งขั้นนี้จะง่ายขึ้นหลังจากฝึก 2 ขั้นแรกได้ดี
ซึ่งวิธีการเจริญสติแบบ Google นั้นก็ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ใช้เวลาเพียงวันละไม่กี่นาที แต่สำคัญคือ “ความต่อเนื่อง” เพราะการฝึกสติ ก็เหมือนกับการออกกำลังกาย เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง คุณจะมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากขึ้น สติก็เช่นเดียวกัน ถ้าคุณฝึกอย่างต่อเนื่องและมากพอ สติก็จะเพิ่มพูนขึ้น
ปัจจุบันนี้บริษัทธุรกิจใหญ่ในอเมริการ้อยละ 25 จะมีโปรแกรมฝึกการเจริญสติให้แก่พนักงาน จะเห็นได้ว่าการเจริญสติและการฝึกสมาธิ เป็นเรื่องสากลที่ขนาดบริษัทระดับโลกยังให้ความสำคัญ คุณก็สามารถเริ่มต้นฝึกเจริญสติและสมาธิใน คอร์สสมาธิออนไลน์กลั่นใจให้เป็นสุข ซึ่งเป็นคอร์สเรียนฟรีตลอดหลักสูตร ไม่เสียค่าใช้จ่าย สมัครหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่